งานบทที่ 2 องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์


งานบทที่ 2 องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์

 

ฮาร์ดแวร์คืออะไร

ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน
1.
ฮาร์ดแวร์สำคัญที่พบในCase ได้แก่
1.1 Power Supply
1.2 Mainboard
และ ฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งหรือเป็นส่วนหนึ่งของ Mainboardที่สำคัญ ได้แก่
1.2.1 CPU
1.2.2 RAM
1.2.3 Expansion Slots
1.2.4 Ports
1.3 Hard Disk
1.4 Floppy Disk Drive
1.5 CD-ROM Drive
1.6 DVD-ROM Drive
1.7 Sound Card
1.8 Network Card
2.
ฮาร์ดแวร์สำคัญที่อยู่นอกCase ที่สำคัญได้แก่
2.1 Keyboard
2.2 Monitor
2.3 Mouse
2.4 Printer
2.5 Scanner
2.6 Digital Camera
2.7 Modem
2.8 UPS

 

 

 

 
 
Software หมายถึง อะไร
Software หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่ง ทำหน้าที่สั่งการ ควบคุมการ ประมวลผลอุปรกรณ์คอมพิวเตอร์ ในส่วนที่เรียกว่า ฮาร์ดแวร์ แม้ว่าจะมีความเร็วสูงในการทำงาน
มีหน่วยความจำสูง และมีอุปรกรณ์ประกอบมากมาย แต่อาร์ดแวร์ทำงานไม่ได้ ถ้าไม่มีชุดคำสั่งควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์หรือชุดคำสั่ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือโปรแกรมระบบ และโปแกรมประยุกต์
1.
โปรแกรมระบบ (system Soltware) ทำหน้าที่ทำงานที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์จำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.1
โปรแกรมระบบปฎิบัติการ (Operating System) ประกอบด้วยโปรแกรมการทำงานย่อยๆ ทำหน้าที่ต่างๆ กันระบบปฎิบัตการที่ใช้กันกว้างขวาง คือ Windows XP ,Windows Vista
Linux
1.2
โปรแกรมแปลภาษา (Language Translators) เป็นโปรแกรมประยุกต์ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น ภาษาสิก
โคบอล ฟอร์แทรน โปรแกรมประยุกต์ที่นำเข้ามาสู่หน่วยจำด้วยภาษาที่เขียนขึ้นเราเรียกว่า Source Program ซึ่งเป็นภาษาเครื่องเราเรียกว่า Object Program หรือ Machine Language
โปรแกรมแปลภาษแต่ละตัวจะทำหน้าที่ต่างกันและจะแปลได้ภาษาใดภาษหนึ่งเท่านั้น เช่น โปรแกรมภาษาโคบอลก็จะแปลเฉพาะภาษาโคบอลเท่านั้น โปแกรมภาษาฟอร์แทน ก็จะแปลได้แต่ภาษาฟอร์แทนเท่านั้น
เป็นโปรแกรมที่บริษัทผู้ผลิต เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือหน่วยงานคอมพิวเตอร์จัดทำขึ้นสำหรับการที่จะช่วยการประมวลผล ที่ทำหน้าที่ประจำโปรแกรมดังกล่าวนี้ ประกอบด้วย
โปรแกรมต่าง ๆ ทำหน้าที่เฉพาะงาน เช่น
1.1.1 Text - Editing Program
เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เพื่อเตรียมข้อมูลหรือโปแกรม เข้าสู่ระบบ การเพิ่มแก้ไขหรือการย่าย หรือลบทิ้ง
1.1.2 Diagnostic Program
ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อพกพร่องของโปแกรมและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
1.1.3 Peripheral Interchange Program
ช่วยจัดย้ายแฟ้มงานข้อมมูลจากสื่อชนิดหนึ่งไปยังสื่ออีกชนิดหนึ่ง เช่น ย้ายข้อมูลในเทปแม่เหล็กไปเก็บไว้ในจานแม่เหล็ก VCD,DVD และอื่นๆ
1.1.4.Sort/Merge Program
ช่วยงานจัดลำดับข้อมูลตามลำดับอักษรหรือลำดับเลขและช่วยงานรวมแฟ้มข้อมูงต่างๆ เข้ามาเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลเดียวกัน
โปแกรมประยุกต์ คือชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เช่นภาษาเบสิก โคบอล ฟอร์แทรน เพื่อให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลตามคาสมต้องการโปแกรมเหล่านี้ผู้ใช้เขียนเอง สำหรับทำงานเฉพาะอย่าง ในขณะเดียวกัน
มีซอฟแวร์จัดทำขึ้นจำหน่วย เรียกว่า โปหแรมสำเส็จรูป (Package Program) ผู้ใช้งานสามารถนำมาใช้งานได้เลย เช่นโปแรกม CDS/ISIS
ซึ่งโปแกรมสำหรับจัดเก็บและสืบค้นสารสนเทศ โปแกรมSAS,ABSTAT,SPSS,Microsoft Office ปัจจุบันมีโปแกรมสำเส็จรูปจำนวนมาก ไมโครคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ ทำให้การใช้งานทำได้กว้างขวางขึ้น การเรียนรู้ง่ายและสะดวก
อย่างไรก็ตาม โปแกรมสำเร็จรูปก็ไม่สนองตอบความต้องการของผู้ใข้ได้ทุกอย่างบางครั้งจำเป็นต้องเขียนโปแกรมขึ้นมาใช้เอง ก็ต้องศึกษาวิธีการเขียนโปแกรม และต้องแน่ใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์มีตัวแปลภาษา ทำหน้าที่แปลคำสั่งให้เป็นภาษาเครื่องได้

ภาษาเครื่องคอมพิวเตอร์แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม
1.
ภาษาเครื่อง ประกอบด้วยกลุ่มเลขฐานสอง ซึ่งเป็นภาษาเดียวที่เครื่องสามารถรับรู้และนำไปปฎิบัติได้ทันที ในระยะเริ่มแรกปผู้ใช้จะต้องเรียนรู้ภาษาเครื่อง จึงจะสามารถเขียนคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ และการใช้ภาษา
เครื่องจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจอย่างลึกซึง จึงนับว่าเป็นความยากลำบากอย่างมากและไม่สะดวกที่จะใช้งาน จึงมีผู้พัฒนาภาษาให้มีความสะดวกมากขึ้น
2.
ภาษาระดับต่ำ เป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษาเครื่อง แต่ทำให้กระซับกว่า โดยผู้ใช้ตัวอักษรแทนเลขฐาน สอง ทำให้ผู้ผู้เขียนชุดคำสั่งสะดวกมากขึ้น เมื่อคอมพิวเตอร์รับคำสั่งภาษาแอสแซบบลีก็จะแปลให้เป็นภาษาที่เรียกว่า แอสแซมเบอล (Assemlier)
เพื่อแปลคำสั่งให้เป็นภาษาเครื่องแม้ว่าผู้ใช้งานจะเข้าใจหรือไม่ก็ตามกับภาษาเครื่อง แต่ยังคงมีความไม่สะดวกเพราะพัฒนามาจากภาษาเครื่อง
3.
ภาษาระดับสูงเป็นภาษาที่ออกแบบให้ใกล้เคียงกับภาษามนุษย์จึงทำให้ผู้ใช้งานได้เข้าใจง่ายกว่าภาษาคอมพิวเตอร์ 2 กลุ่ม ที่กล่าวมา โดยบไม่คำนึงถึงรายละเอียดในระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไม่มากนักไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน
เกี่ยวกับภาษาเครื่อง ภาษาระดับสูงนี้สามารถนำไปใช้งานกับคอมพิวเตอร์ในระบบอื่นได้ นับว่าเป็นภาษาที่สะดวกแก่การใช้งานมากขึ้น แต่ละภาษามีจุดเด่นต่างกัน ต้องมีการพิจารณาเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น
- FORTRAN
เป็นภาษาที่มีความสามารถในการคำนาณสูงมาก เหมาะสำหรับงานวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม
- COBOL
เหมาพสำหรับการใช้งานทางด้สนธุรกิจการบัญชีการธนาคาร ความสามารถในการจัดการกับแฟ้มข้อมูลจำนวณมาก
- BASIC
เป็นภาษษคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นให้มีลักษณธที่ใช้งานง่าย ศึกษาได้ง่ายผู้ใช้สามารถตอบกับเครื่องในโปรแกรมและเหมาะแก่แารใช้งานทางธุรกิจ วิทยาศาสตร์ แต่ภาษาเบสิกยังจัดได้ว่าใหช้งานได้ไม่ดีนัก ส่วนใหญ่ใช้ในไมดครคอมพิวเตอร์
- PACAL
เป็นภาษาที่พัฒนามาจากโปรแกรมโครงสร้าง แต่จัดอยู่นะดับปลานกลางเพราะ การจัดการข้อมลูไม่ได้มาก
นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีภาษาระดับสูงอีกเช่น ALGOL,ADA,ALP,PROLOG,C เป็นต้น
โครงสร้างข้อมูล (DATA Structure) ข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลมีรายละเอียดดังนี้
1.
บิท(Bit) เป็นหน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุดในคอมพิวเตอร์ ย่อมาจาก Binary digit หมายถึงเลขฐานสองที่มีค่า 0หรือ 1ดังนั้นในแต่ละบิทจึงแทนค่าได้เพียงสองสภาวะ หรือถ้าแทนตัวอักษรจะได้เพียง สองตัวอักษรเท่านั้น
เช่น 0=a,1=b
2.
ไบต์ (Byte)หมายถึง หน่วยข้อมูลกลุ่มหนึ่งที่ใช้แทนตัวอักษร (Character) หนึ่งตัวหรือหนึ่งไบต์เช่น A=0110001,B=011000010
ไบต์ เป็นหน่วยข้อมมูลที่มีขนาดใหญ่กว่าบิทและใช้บอกขนาดความจุในการเก็บข้อมมูลในคอมพิวเตอร์โดยมีหน่วยเรียดว่า ดังนี้
8 Bit = 1 Byte
1,024 Byte = 1 Kilobyte
1,024 Kilobyte = 1 Megabyte
1,024 Megabyte = 1 Gigabyte
-
ตัวอักษร (Charater)หมายถึงสัญลักษณ์ ที่ใช้ในการประเมินผล เช่น 0-9,a-z'ก-ฮ และเครื่องหมายอื่นๆ ซึ่งจะมีความหมายเช่นเดียวกับไบต์
-
คำ(Word)หมายถึง กลุ่มของไบต์ หรือหน่วยหลักของเขตข้อมูลที่ใช้ในหน่วยความจำหลักของข้อมูล เช่น24 Bits/word หรือ32 Bist/word
-
เขตข้อมมูล (Field)หมายถึง กลุ่มของไบต์หรือว่ากลุ่มตัวอักษร ที่มีขอบเขตเป็นพื้นที่เฉพาะอันใดอันหนึ่ง ในการบันทึกข้อมูลในแต่ละรายการ เช่น เขตข้อมูลในแต่ล่ะรายการ เช่น เขตข้อมูลของชื่อและนามสกุลหรือประวัติ
-
ระเบียบ (Recrod)หมายถึง ข้อมูลหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบของแฟ้มข้อมมูลหรือกลุ่มของข้อมมูลชุดหนึ่ง หรือกลุ่มของเขตข้อมมูลที่ประกอบขึ้นเป็น Recrord
-
แฟ้ม (File)หมายถึงชุดข้อมมูล ซึ่งประกอบไปด้วยไปด้วยกลุ่มของระเบียบที่มีวัตถุประสงค์ ในการปะเมินผลร่วมกัน เช่น แฟ้มข้อมมูลของนักศึกษาก็จะประกอบไปด้วยระเบียบของนักศึกษาทุกๆคน
- Vector
หมายถึง Field ที่ตรงกันในแต่ล่ะ Recrord
- Array
หมายถึง กลุ่มของ Vector ทั้งหมดใน Recrord
1.3โปรแกรมอำนวจจความสะดวก (Utility Program)
 
 
ซอฟต์แวร์ประยุกต์แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
2.1 ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน เป็น Software ที่ใช้สำหรับงาน
เฉพาะด้าน เช่น Software สำหรับงานธนาคารการฝากถอนเงิน So
ซอฟต์แวร์ประยุกต์

ซอฟต์แวร์ประยุกต์เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับทำงานต่าง ตามที่ต้องการ
เช่น การทำงานเอกสาร งานกราฟิก งานนำเสนอ หรือเป็น Software สำหรับงาน
เฉพาะด้าน เช่น โปรแกรมงานทะเบียน โปรแกรมการให้บริการเว็บ
โปรแกรมงานด้านธนาคาร
ftware

สำหรับงานทะเบียนนักเรียน ซอฟต์แวร์คิดภาษี ซอฟต์แวร์การให้บริการร้าน Seven ฯลฯ
2.2
ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับงานทั่วไป
โดยในซอฟต์แวร์ 1 ตัวมีความสามารถในการทำงานได้หลายอย่าง
เช่น ซอฟต์แวร์งานด้านเอกสาร (Microsoft Word ) มีความสามารถใน
การสร้างงานเอกสารต่าง ๆ จัดทำเอกสารรายงาน จัดทำแผ่นพับ
จัดทำหนังสือเวียน จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์
 
การใช้งานทั่วไปก็จะมี Software ต่างๆ เช่น
- ซอฟต์แวร์งานด้านเอกสาร
- ซอฟต์แวร์งานนำเสนอ
- ซอฟต์แวร์ตารางคำนวณ
- ซอฟต์แวร์งานกราฟิก
 
ระบบสารสนเทศที่หน่วยงานนำมาใช้


MIS
ลักษณะธุรกิจ : ประเภทบริการ
ระบบสารสนเทศที่หน่วยงานนำมาใช้ : งานในด้านสารสนเทศของบริษัททีโอทีบริษัทจะมีการนำสารสนเทศเข้ามาใช้หลายระบบซึ่งแต่ละระบบจะมีความสามารถเฉพาะตัว เช่น
- ระบบอินเทอร์เน็ต จะช่วยงานในการประชาสัมพันธ์ติดต่อกับลูกค้า
- ระบบเอ็กทราเน็ตจะนำมาใช้กับงานภายในองค์กรเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับบุคลากรภายในองค์กร
- ระบบ CRM ช่วยในการเก็บฐานข้อมูลลูกค้า
- ระบบSAP นำมาช่วยงานในด้านการเงินและบัญชี
ระบบSAP
นำเข้ามาใช้ในปี 2546 โดยมีบริษัท คูเปอร์ เป็นผู้เข้ามาวางระบบให้ และมีการจัดอบรมการใช้ระบบ ทีละระบบในครั้งแรกระบบ SAP ที่นำมาใช้คือระบบSAP R/2 จากนั้นก็พัฒนามาเป็นระบบ R/3 และมีแนวโน้มว่าจะพัฒนาเป็นระบบ R/4 ในอนาคต และก่อนที่จะมาใช้ระบบ SAP นั้น บริษัทใช้ระบบManual ซึ่งมีความล้าช้า บริษัทจึงนำระบบใหม่เข้ามาใช้ซึ่งมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ระบบ SAP ที่นำเข้ามาใช้ บุคลากร จะมี User name และ Pass word ให้สามารถเข้าใช้งานซึ่งระบบนี้ทำให้สามารถดูแลงานเป็นระดับชั้นได้คือ บุคลากรแต่ละระดับจะสามารถเข้าระบบได้เฉพาะส่วนงานของตน
ระดับภูมิภาคจะสามารถเข้าระบบได้ทั้งภูมิภาค เช่นภาคอีสาน ,ภาคเหนือ, ภาคตะวันออก จะสามารถเข้าดูได้ทุกจังหวัดในเขตภูมิภาคของตน และบริษัทแม่ของ ทีโอทีก็จะสามารถดูได้ทุกภูมิภาค ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งเป็นการตรวจสอบการทำงาน ดูงบประมาณที่แต่ละบริษัทใช้ พัสดุคงเหลือ เป็นต้น
นำระบบเข้ามาใช้ : เป็นกลยุทธ์ระดับปฏิบัติการวิธีการได้มาของระบบ : ซื้อระบบเข้ามาและพัฒนาต่อเองเหตุผลที่นำเข้ามาใช้ :
1.เพื่อเพิ่มศักยภาพ/ความคล่องตัวในการทำงาน
2.ระบบเก่ามีความล่าช้า
3.เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
4.เพื่อให้ทันกับความต้องการในปัจจุบัน
ผลการนำระบบมาใช้ :
1.การทำงานมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
2.สามารถควบคุม/ตรวจสอบการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
3.การทำงานมีความเป็นระเบียบมายิ่งขึ้น
4.ระบบสามารถควบคุมดูแลข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
5.ผู้ใช้มีความพึงพอใจในประสิทธิภาพของระบบซึ่งถือเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่งในการนำระบบมาใช้
6.ลดเวลาการทำงาน
ปัญหา - อุปสรรค - ผู้ใช้ยังไม่มีความเข้าใจในระบบใหม่- ระบบมีความซับซ้อน แนวทางแก้ไข- จัดอบรมการใช้งานให้บุคลากรที่เกี่ยวข้อง- จัดทำ คู่มือการใช้งาน การแก้ปัญหาเมื่อระบบขัดข้อง
คำสำคัญ (keywords): ระบบสารสนเทศ
สร้าง: 02 กุมภาพันธ์ 2551 13:09 ·แก้ไข: 02 กุมภาพันธ์ 2551 13:09
ดอกไม้: 0 · ความเห็น: 2 · อ่าน: 15098 · สร้าง: มากกว่า 5 ปี ที่แล้ว

 
 
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น